ประตูเมืองขอนแก่น

KhonKaenHomeLand.com รับฝากขายบ้าน ที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ จังหวัดขอนแก่น

วัดหนองแวง บึงแก่นนคร

KhonKaenHomeLand.com รับฝากขายบ้าน ที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ จังหวัดขอนแก่น

ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองขอนแก่น

KhonKaenHomeLand.com รับฝากขายบ้าน ที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ จังหวัดขอนแก่น

ห้างเซ็นทรัลขอนแก่น

KhonKaenHomeLand.com รับฝากขายบ้าน ที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ จังหวัดขอนแก่น

หอประชุมใหญ่มหาวิทยาลัยขอนแก่น

KhonKaenHomeLand.com รับฝากขายบ้าน ที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ จังหวัดขอนแก่น

Welcome to บริการรับฝากขาย บ้าน ที่ดิน อสังหาฯ ทุกชนิด จ.ขอนแก่น ฟรี !! ค่าโฆษณา Tel. : 083-599-3344 / Line ID : @bank.asangha

วันอังคารที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556

การซื้อบ้านเอื้ออาทรมือสอง

แบ่งเป็น 3 กรณี ครับ

กรณีที่ 1. การซื้อบ้านเอื้ออาทรมือสอง กรณีบ้านยังส่งกับทาง เคหะอยู่

1.ตรวจสอบว่าส่งครบ5 ปีหรือ 60 งวดแล้วหรือยัง(ถ้ายังเปลี่ยนสิทธิ์ไม่ได้)

2.ตรวจสอบว่าต่อสัญญาส่งต่อกับเอื้ออาทรหรือยังและต้องให้ทางผู้ขายเคลียร์ให้หมด(ถ้ายังต้องเสีย1000ค่าต่อสัญญา)

3.ตรวจสอบว่าค้างส่งงวดกี่เดือนและต้องให้ทางผู้ขายเคลียร์ให้หมด(ไม่เกิน 4 เดือนเพราะถ้าเกินบ้านจะถูกส่งเรื่องยึดทำเรื่องต่อไม่ได้)

4.กรณียื่นกู้ธนาคารเพื่อซื้อ ก็ให้ไปติดต่อสอบถามธนาคารก่อนเพื่อเช็ค เครดิต ว่าจะผ่านหรือไม่คร่าวๆ ถ้าธนาคารแจ้งว่าน่าจะผ่าน(ใช้เวลาสอบถามประมาณ1ชมและควรเตรียมเอกสารทางการเงินไปให้ครบ(สำเนาสมุดบัญชีธนาคาร+statement+ใบรับรองเงินเดือน+สลิปเงินเดือน))

5.ทำสัญญาจะซื้อจะขาย+เอกสารที่ต้องเตรียมของผู้ซื้อและขาย(สน.ทะเบียนบ้าน,สน.บัตรประชาชน,เล่มสัญญา,ใบเสร็จเงินดาวน์,คำร้องขอเปลี่ยนสิทธิ์,ใบมอบอำนาจการโอน(ต้องทำเพื่อผู้ขายจะได้ไม่ต้องมาในวันโอนโฉนดอีกรอบและเป็นการป้องกันผู้ขายการบิดพลิ้วในวันโอนโฉนด))+เอกสารทางการเงินของผู้ซื้อ(สำเนาสมุดบัญชีธนาคาร+statement+ใบรับรองเงินเดือน+สลิปเงินเดือน) ทั้งหมดนี้เรื่องจะทำที่เคหะสาขาพื้นที่ที่จะซื้อ (ค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนสิทธิ์ 20000)

6.ไปทำเรื่องยื่นกู้ที่ธนาคารในวันเดียวกันกับข้อ5 (วันที่ไปทำเรื่องเปลี่ยนสิทธิ์ที่ เคหะ) เตรียมเอกสารยื่นเรื่องกู้ธนาคารไปให้ครบ(สำเนาสมุดบัญชีธนาคาร+statement+ใบรับรองเงินเดือน+สลิปเงินเดือน+สน.ทะเบียนบ้าน,สน.บัตรประชาชน,สัญญาจะซื้อจะขาย) (เสียค่าประเมินประมาณ 2500-3000 แล้วแต่เรทราคาประเมิน จะเก็บหน้างานวันที่ธนาคารไปประเมินจริง)

7.หลังจากนั้นรอ 30-90 วันเรื่องอนุมัติปลี่ยนสิทธิ์จะมา ทางเคหะจะโทรมาแจ้งผู้ซื้อเพื่อดำเนินการโอนโฉนด(นำเอกสารใบมอบอำนาจการโอนที่ทำกับเคหะตามข้อ5ไปด้วย) และแจ้งธนาคารเพื่อชำระส่วนที่เหลือกับเคหะ (เสียค่าใช้จ่าย ประมาณ 10000 บาท)

8.กรณียื่นเรื่องกู้ไปแล้วไม่ผ่าน ให้ตกลงกับเคหะว่าจะต้องชำระส่วนที่เหลือด้วยเงินสดภายในวันไหน (ส่วนมากจะหลังจากวันที่เรื่องอนุมัติเปลี่ยนสิทธิ์ผ่านไม่เกิน 90 วัน) ไม่เช่นนั้นทางเคหะจะทำการยึดบ้านทันที

กรณีที่ 2. การซื้อบ้านเอื้ออาทรมือสอง กรณีบ้านส่งกับทางธนาคารแล้ว (กรณียังไม่โอนโฉนดกับทางเคหะ)
1.ตรวจสอบยอดคงค้างธนาคาร

2.ทำสัญญาจะซื้อจะขาย+เอกสารที่ต้องเตรียมของผู้ซื้อและขาย(สน.ทะเบียนบ้าน,สน.บัตรประชาชน,เล่มสัญญา,ใบเสร็จเงินดาวน์,คำร้องขอเปลี่ยนสิทธิ์,ใบมอบอำนาจการโอน(ต้องทำเพื่อผู้ขายจะได้ไม่ต้องมาในวันโอนโฉนดอีกรอบและเป็นการป้องกันผู้ขายการบิดพลิ้วในวันโอนโฉนด))) ทั้งหมดนี้เรื่องจะทำที่เคหะสาขาพื้นที่ที่จะซื้อ (ค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนสิทธิ์ 20000)

3.ทางเคหะจะให้ไปดำเนินการปิดบัญชีที่ธนาคารที่ผู้ขายนำบ้านไปเข้าไว้ด้วยเงินสด แล้วนำใบเสร็จกลับมาที่เคหะแล้วดำเนินการทำเรื่องเปลี่ยนสิทธิ์ต่อ

4.หลังจากนั้นรอ 30-90 วันเรื่องอนุมัติเปลี่ยนสิทธิ์จะมา ทางเคหะจะโทรมาแจ้งผู้ซื้อเพื่อดำเนินการโอนโฉนด(เสียค่าใช้จ่าย ประมาณ 10000 บาท)

กรณีที่3. การซื้อบ้านเอื้ออาทรมือสอง กรณีบ้านส่งกับทางธนาคารแล้ว (กรณีโอนโฉนดกับทางเคหะไปแล้วหรือโฉนดเป็นของผู้ขายแล้ว)
1.ตรวจสอบยอดคงค้างธนาคาร

2.กรณียื่นกู้ธนาคารเพื่อซื้อ ก็ให้ไปติดต่อสอบถามธนาคารก่อนเพื่อเช็ค เครดิต ว่าจะผ่านหรือไม่คร่าวๆ ถ้าธนาคารแจ้งว่าน่าจะผ่าน(ใช้เวลาสอบถามประมาณ1ชมและควรเตรียมเอกสารทางการเงินไปให้ครบ(สำเนาสมุดบัญชีธนาคาร+statement+ใบรับรองเงินเดือน+สลิปเงินเดือน))

3.ทำสัญญาจะซื้อจะขาย+เอกสารที่ต้องเตรียมของผู้ซื้อและขาย(สน.ทะเบียนบ้าน,สน.บัตรประชาชน,เอกสารขอสินเชื่อ))+เอกสารทางการเงินของผู้ซื้อ(สำเนาสมุดบัญชีธนาคาร+statement+ใบรับรองเงินเดือน+สลิปเงินเดือน) ทั้งหมดนี้เรื่องจะทำที่ธนาคารที่ขอสินเชื่อ  (เสียค่าประเมินประมาณ 2500-3000 แล้วแต่เรทราคาประเมิน จะเก็บหน้างานวันที่ธนาคารไปประเมินจริง)

4.หลังจากนั้นรอ 14-21 วันเรื่องอนุมัติจะผ่านหรือไม่ผ่านทางธนาคารจะโทรมาแจ้งผู้ซื้อเพื่อดำเนินการต่อในกรณีผ่านทางธนาคารจะแจ้งผู้ซื้อเพื่อนัดวันโอนโฉนด(เสียค่าใช้จ่าย ประมาณ 30000-40000 บาท) ต้องตกลงกับผู้ขายว่าค่าใช้จ่ายส่วนนี้จะชำระกันอย่างไร

KhonKaenHomeLand
รับซื้อ ฝากขาย ขายฝาก จำนอง บ้าน ที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ทุกชนิด
Tel : 083 599 3344

วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ขั้นตอนการซื้อ-ขายบ้านและที่ดิน

เมื่อมีการตกลงจะซื้อบ้านหรือที่ดิน โดยเฉพาะบ้านที่เคยมีคนอยู่แล้ว หรือบ้านมือสอง จะมีวิธีปฎิบัติดังนี้

1. วางมัดจำ และเซ็นสัญญาจะซื้อจะขาย ปกติวาง 5%-30% ตามแต่ตกลง หรือวางมัดจำจำนวนน้อยกว่า 5% ก็ได้ ถ้าเป็นจำนวนเงินสูงมาก

2. ส่วนที่เหลือก็จะใช้ระยะเวลา 1 เดือน 3 เดือน 6 เดือน หรือ 12 เดือน ในการโอน เพราะบางครั้งผู้ซื้อต้องการกู้เงินจากสถาบันการเงินมาซื้อ โดยนำทรัพย์เข้าจำนองกับสถาบันการเงิน จะต้องมีการเดินเรื่องอย่างน้อย 1 เดือน เป็นอย่างต่ำ

3. มีการตรวจสอบอะไรบ้าง !
ถ้าเป็นบ้าน ก็ดูโฉนดที่ดิน สำเนาทะเบียนบ้าน ว่าผู้ขายมีชื่ออยู่ในบ้านหรือเปล่า ถ้าหากเจ้าของไม่ได้อยู่ เพราะมีหลายบ้าน ก็ดูว่าผู้อยู่ เป็นลูกหลาน หรือคนที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดอย่างไร ซื้อสามารถให้โอนย้ายออกได้ตามคำสั่งของผู้ขาย หากเป็นผู้เช่าก็ดูสัญญาเช่าจะหมดสัญญาเมื่อไหร่ หรือจะมีการตกลงกันเป็นพิเศษ ควรให้ผู้ขายย้ายคนในบ้านออกไปก่อนวันโอน

4. หากเป็นที่ดินเปล่า ก็ให้ดูจากโฉนดและหลักหมุดว่า ตรงกับโฉนดหรือไม่ หากเป็นที่ดินตามต่างจังหวัด ท้องนา ไร่ หลักหมุดมักจะจมดินหายไป ก็ควรให้มีการรังวัด สอบเขตก่อนวันโอน

5. ถ้าเป็นที่ดินผืนใหญ่ไม่มีรั้วรอบขอบชิด ก็ควรทำรังวัดเพื่อดูว่าเนื้อที่ได้ครบตามตกลงกันหรือไม่ โดยติดต่อเจ้าหน้าที่ แผนกรังวัด จากสำนักงานที่ดินให้มาทำรังวัด

6. ตรวจสอบแนวเวนคืนให้แน่ใจเสียก่อน ซื้อปัจจุบันนี้มีการตัดถนนมากมาย ซึ่งก็สามารถไปตรวจตามหน่วยงานที่รับผิดชอบได้

KhonKaenHomeLand
รับซื้อ ฝากขาย ขายฝาก จำนอง บ้าน ที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ทุกชนิด
Tel : 083 599 3344

วันอาทิตย์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2556

เตรียมรับมือจากคำถามของผู้สนใจซื้อที่จะเข้ามาดูบ้าน คอนโด





ในฐานะที่เราเป็นคนขายบ้าน คอนโด หากผู้สนใจจะซื้อ ได้นัดหมายเข้ามาดูบ้าน คอนโด ผู้ขายควรจะต้องเตรียมข้อมูลต่างๆ ให้พร้อม ในการให้ข้อมูลกับผู้สนใจซื้อ ไว้บ้าง ก็อาจจะทำให้การ ซื้อ ขาย ลื่นไหลไปได้ดี เรามาดูกันว่า ทางผู้ซื้อมักจะถามอะไรเราบ้าง


1. คำถามเกี่ยวกับประวัติของบ้าน
  • ทำไมถึงขาย อาจมีปัญหาที่ทำให้เจ้าของบ้านต้องย้ายหนีอะไรหรือเปล่า ?
  • สร้างเมื่อไหร่ ใครเป็นผู้สร้าง มีที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้หรือไม่ ?
  • มีใบอนุญาตก่อสร้างหรือไม่ มีแบบก่อสร้างหรือพิมพ์เขียวที่ถูกต้องหรือไม่ ?
  • มีการต่อเติมบ้านหรือไม่ ต่อเติมส่วนใด ?
  • เคยมีประวัติน้ำท่วมหรือไม่ ?
  • มีโฉนดที่ดิน ที่ดินติดจำนองหรือไม่ ?
2. ถามเกี่ยวกับตัวบ้าน และสภาพของบ้าน
ในส่วนนี้ ส่วนมากผู้ซื้อจะไม่ค่อยถาม และมักจะตรวจสอบด้วยตัวเอง เช่น
  • ตัวบ้านเอียงไหม ?
  • คานและพื้นแอ่นตัวมากจนเห็นได้ชัดหรือไม่ ?
  • มีร่องรอยการซ่อมแซมหรือไม่ ?
  • มีรอยร้าวในผนังบ้านหรือไม่ ?
  • หลังคารั่วหรือไม่ ?
  • ดูที่ฝ้าเพดาน มีคราบเหลืองเป็นรอยน้ำรั่วหรือไม่ ?
  • ลองเปิดก๊อกน้ำดูว่าน้ำไหลแรงหรือไม่ หรือต้องใช้ปั๊มน้ำ ?
  • ถ้าฝนตกหนักๆ น้ำท่วมเข้าบ้านหรือเปล่า ? 
  • มีคราบรอยน้ำที่พื้นบ้าน ตะไคร่น้ำสีเขียว ปรากฏให้เห็นหรือไม่ ?
  • ขนาดเนื้อที่บ้าน ขนาดรอบๆ ระยะห่างจากตัวบ้านไปยังรั้วเท่าไหร่ ?
3. คำถามเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมของบ้าน
  • ถามเพื่อนบ้านใกล้เคียงว่าแถวนี้อยู่สบายไหม บ้านโครงการนี้เป็นอย่างไรบ้าง ?
  • มีมลภาวะจากเสียง แสง และกลิ่นไม่พึงประสงค์หรือไม่ ?
  • มีขโมยชุม เพื่อนบ้านเป็นอย่างไร มีจัดปาร์ตี้เสียงดังหรือไม่ ?
  • มีปัญหาเรื่องแย่งที่จอดรถกันหรือไม่ ?
  • มีโรงงานตั้งอยู่ใกล้หรือเปล่า ?
4. สาธารณูปโภค สิ่งอำนวยความสะดวก
  • มีสิ่งอำนวยความสะดวก ฟิตเนส คลับ สระว่ายน้ำ สวนสาธารณะหรือไม่ ?
  • สาธารณูปโภคมีอะไรบ้าง น้ำไหลแรง หรือไฟฟ้าตกบ่อยหรือไม่ ?
  • ถนนทางเข้า-ออก เป็นยังไง ?
  • ใกล้ศูนย์การค้า การคมนาคมสะดวกสบายหรือไม่ ?
  • ระบบรักษาความปลอดภัยดีไหม มีกล้องวงจรปิด หรือรปภ. แลกบัตรหรือไม่ ?
5. เงื่อนไขการขายและราคา ส่วนควบในราคาบ้าน
  • ราคาบ้านเท่าไหร่ (ลดได้เท่าไหร่) ?
  • ค่าภาษีค่าโอนใครเป็นผู้จ่าย ?
  • ของแถม และส่วนควบในราคาบ้านมีอะไรบ้าง เช่น ปั๊มน้ำ แอร์ ผนัง เฟอร์นิเจอร์ บิวท์อิน เหล็กดัด และ ผ้าม่าน ?
  • ค่าส่วนกลาง ต้องจ่ายค่าส่วนกลางเท่าไหร่ อะไรบ้าง ?
  • สำหรับต้องการกู้ซื้อบ้านโครงการ ถามเกี่ยวกับรายละเอียดกู้ธนาคาร ?
  • สาธารณูปโภคส่วนไหนบ้างที่จะยกให้นิติบุคคล ตรงไหนบ้างที่เป็นภาระจำยอม ?
  • จะขยายไปอีกกี่โครงการ พื้นที่ว่างจะสร้างอะไร ?
  • มีสโมสร สระว่ายน้ำใช้ร่วมกันกี่โครงการ ?
6. คำถามเพิ่มเติมหากเป็นโครงการบ้าน
  • ดูบ้านโครงการบ้าน มีแบบไหนบ้าง ราคาอันไหนเท่าไหร่ มีอะไรจะแนะนำเพิ่มเติมหรือไม่ ?
  • โครงการบ้านประมาณการก่อสร้างเสร็จเมื่อไหร่ ?
  • บ้านตัวอย่างมีหรือไม่ ?
  • ถ้าไม่มีบ้านตัวอย่างขอดูรูปภายในบ้านคร่าวๆ ?
  • หากเดินดูบ้านตัวอย่าง อะไรที่ใช้กับบ้านจริงบ้าง อันไหนไม่ใช่ เช่นอุปกรณ์ห้องน้ำ สี ประตูหน้าต่าง ฝ้า ไฟ เป็นต้น

ตัวอย่าง คำถามที่ผู้ซื้อมักจะถาม ในการซื้อคอนโด
  • คอนโดมีตึกละกี่ยูนิต ?
  • ระบบรักษาความปลอดภัย เป็นอย่างไร ทางเข้าโครงการมีป้อมยาม กล้องวงจรปิด คีย์การ์ดหรือไม่ อย่างไร ?
  • ความสูงจากฝ้าลงมาถึงพื้นเท่าไหร่ และแต่ละห้องฝ้าสูงเท่ากันหรือไม่ ?
  • มีร้านอะไรบ้าง ที่ไหน เช่น มินิมาท ซักรีด นวดสปา ร้านเสริมสวย ?
  • สระว่ายน้ำ เป็นแบบไหนคะ ขนาดเท่าไหร่ ?
  • ระหว่างตึกห่างกันกี่เมตร ถูกกฎหมายหรือไม่ ?
  • จุดวางเครื่องซักผ้า อบผ้า อยู่ตรงไหน ?
  • มีเครื่องใช้ไฟฟ้าอะไรให้บ้าง ยี้ห้ออะไร และกำลังวัตต์ มีประกันหรือไม่ ?
  • ระบบโทรศัพท์เป็นไร มีกี่จุด มี wifi หรือไม่ ?
  • การทิ้งขยะทำอย่างไร ?
  • ตากผ้าจะทำยังไง ?
  • มีช่างประจำอาคารหรือไม่ ?
  • ค่าใช้จ่ายค่าส่วนกลาง ค่าฟิสเนต ห้องซาวน่า คิดอย่างไร ถ้าพาแขกหรือญาติมาคิดยังไง ?
  • ข้างหน้าโครงการของใคร มีโครงการจะทำอะไร จะมีตึกมาบังหรือไม่ ?
  • การเดินทางสะดวกหรือไม่ มีเข้าออกตรงไหนได้บ้าง ไกลรถไฟใต้ดิน ไกลรถไฟฟ้าแค่ไหน ?
  • ที่จอดรถ จอดได้กี่คัน ต้องจ่ายค่าจอดหรือไม่ เท่าไหร่ ญาติมาเพื่อนมาจะจอดอย่างไร ?
  • ถ้าซื้อคอนโดต่อจากคนอื่น ต้องดูว่ามีการโอนกรรมสิทธิ์กับทางโครงการหรือยัง เพราะถ้าโอนแล้ว ถ้าเรากู้เงินแบ้งค์ จะส่งผลต่อวงเงินกู้และอัตราดอกเบี้ย ?
  • มีระบบเตือนภัยอัคคีภัยอย่างไร มีเครื่องตรวจจับควัน ลักษณะเป็นอย่างไร ?
  • ถ้าไฟดับมีระบบสำรองไฟหรือไม่ ในห้องเปิดไฟได้หรือไม่ มีลิฟต์ใช้งานได้กี่ตัว ?
  • แท้งน้ำสำรองของโครงการหรือไม่ ?
  • ถ้ามีญาติ หรือแขกมาหาที่คอนโดต้องทำอย่างไร ?
  • ประตูในแต่ละห้องเป็นอย่างไร ระบบล็อคห้องเป็นอย่างไร ประตูมีตาแมวหรือไม่ ?
  • กล้องวงจรปิดตรงทางเดินระหว่างชั้นมีหรือไม่ คีย์การ์ดมีกี่จุดตรงไหนบ้าง ?
  • เวลาฝนตกหนักๆ แถวนี้น้ำท่วมขังหรือไม่ ?

KhonKaenHomeLand
รับซื้อ ฝากขาย ขายฝาก จำนอง บ้าน ที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ทุกชนิด
Tel : 083 599 3344

วันเสาร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2556

สัญญาจองซื้อ กับ สัญญาจะซื้อจะขาย ต่างกันยังไง

ปกติเราจะรู้จักแต่ "สัญญาจะซื้อจะขายกัน" วันนี้เรามาทำความรู้จัก "สัญญาจองซื้อ" กันบ้าง

สัญญาจองซื้อ เป็นสัญญาลักษณะใหม่ ที่ผู้ขายพัฒนาขึ้นเพื่อนำมาใช้แทน สัญญาจะซื้อจะขาย เพื่อใช้เลี่ยงข้อจำกัดในการขายอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสี่ยงขึ้นในฝั่งผู้ซื้อได้

เนื่องจากในการทำธุรกิจ บ้านจัดสรร หรือคอนโดมิเนียมขายนั้น ขั้นตอนโดยปกติ ผู้ประกอบการจะต้องซื้อที่ดิน ทำเรื่องแบ่งแยก รวมที่ดิน พร้อมกับทำแผนผังไปขออนุญาตจากหน่วยงานราชการต่างๆ ให้เสร็จก่อน และเมื่อได้รับอนุญาติแล้ว จึงจะสามารถทำการโฆษณา ประชาสัมพันธ์เปิดการขายได้

แต่มี ผู้ประกอบการบางราย ต้องการขายในระหว่างที่ยังไม่สามารถซื้อที่ดินได้ หรือมีที่ดินแล้ว แต่ยังไม่ได้รับอนุญาติจากหน่วยงานราชการ ก็มักจะเลี่ยงมาใช้สัญญาจองซื้อ แทนที่จะเป็นสัญญาจะซื้อจะขาย

โดยสัญญาจองซื้อนี้ หากผู้ขายหรือเจ้าของโครงการผิดสัญญา ไม่ยอมขึ้นโครงการ ผู้ซื้อทำได้เพียงอย่างเดียวคือเรียกเงินมัดจำหรือเงินดาวน์คืน (ไม่มีดอกเบี้ย) และ จะบังคับให้โอนกรรมสิทธิ์ไม่ได้

แต่หากเป็นสัญญาจะซื้อจะขาย หากผู้ขายผิดสัญญา ผู้ซื้อสามารถฟ้องให้โอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดหรือบ้านก็ได้ หรือยกเลิกสัญญาแล้วให้คืนเงินพร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ก็ได้แล้วแต่จะเลือก


สำหรับ ปัญหาสัญญาจองซื้อและสัญญาจะซื้อจะขายห้องชุด คอนโดมิเนี่ยม

ตามกฎหมายอาคารชุดใหม่ที่แก้ไขใหม่เมื่อ ก.ค.2551 กำหนดให้โครงการจะเปิดขายให้กับลูกค้า และออกสัญญาจะซื้อจะขายตามกฎหมายได้ก็ต่อเมื่อโครงการนั้นผ่าน EIA (การศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม) และได้รับอนุญาตให้ก่อสร้างจากหน่วยงานท้องถิ่นก่อนเท่านั้น

และเมื่อโครงการออกสัญญาจะซื้อจะขายให้ลูกค้าได้แล้ว การเปลี่ยนชื่อโอนสิทธิลูกค้าจะมีสิทธิทำได้อย่างเสรีโดยไม่มีค่าธรรมเนียมใด ๆ

เพื่อหลีกเลี่ยงข้อกำหนดดังกล่าว ทำให้โครงการบางแห่งใช้กลยุทธ์ ขายห้องชุดโดยแยกขั้นตอนการขายออกเป็น 3 ขั้นตอน ดังนี้คือ

ขั้นตอนที่ 1 ทำเป็นใบจองห้องชุด เริ่มจากโครงการเปิดจอง การเปลี่ยนชื่อในขั้นตอนนี้ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของเจ้าของโครงการจะกำหนดแล้วแต่กรณีไป ปกติจะกำหนดกันประมาณ 2% ของราคาห้องชุด ใบจองที่ได้เป็นใบเสนอราคาห้องชุด และรายการงวดจ่ายเงินดาวน์

ขั้นตอนที่ 2 สัญญาจองซื้อห้องชุด จะทำสัญญาจองซื้อหลังจาก 1-2 สัปดาห์หลังการจอง การเปลี่ยนชื่อในขั้นตอนนี้ ส่วนใหญ่ยังกำหนดค่าเปลี่ยนชื่อ 2% ของราคาห้องชุด หรือตามที่เจ้าของโครงการกำหนด ลักษณะจะเป็นสัญญาที่มีการระบุรายละเอียดไว้คร่าว ๆ โดยมีเอกสารแนบเป็นฉบับร่างสัญญาจะซื้อจะขายที่ลูกค้าจะทำต่อไปให้ด้วย

ขั้นตอนที่ 3 สัญญาจะซื้อจะขายห้องชุด สัญญาส่วนนี้เป็นไปตามกฎหมายอาคารชุดใหม่ที่แก้ไขเมื่อ ก.ค.2551 ทุกประการ ซึ่งช่วงห่างจากการจองและทำสัญญาจองซื้อกับการทำสัญญาจะซื้อจะขาย อาจยาวนานถึง 1 ปีก็ได้

KhonKaenHomeLand
รับซื้อ ฝากขาย ขายฝาก จำนอง บ้าน ที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ทุกชนิด
Tel : 083 599 3344

วันพุธที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2556

เทคนิคการถามคัดกรองผู้เช่าแบบง่ายๆ

สวัสดีครับ

เมื่อมีผู้สนใจเช่าติดต่อเข้ามา เราในฐานะเจ้าของบ้าน คอนโดให้เช่า จะถามอะไรบ้าง เพื่อให้สามารถรู้ข้อมูลคร่าวๆ ของผู้สนใจเช่า ว่าจะเป็นผู้เช่าที่น่าสนใจหรือเปล่า ?

วันนี้ผมมีเทคนิคการยิงถามคำถามเปิด เพื่อคัดกรองผู้เช่าแบบง่ายๆ มาฝากครับ

คำถามที่ 1 : คุณทำงานอยู่บริเวณนี้หรือเปล่า ?
คำถามนี้จะทำให้รู้ว่า ผู้เช่าทำงานอะไรอยู่ ลักษณะการทำงานเป็นเป็นเช่นไร อนาคตจะมีปัญหาไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าหรือไม่

คำถามที่ 2 : จำนวนคนที่จะเข้ามาอยู่อาศัยด้วย มีมากน้อยเพียงใด ?
คำถามนี้จะทำให้รู้ว่า ผู้เช่าแต่งงานมีภรรยาหรือไม่ อย่างไร มีลูกหรือไม่ ถ้ามีมีกี่คน ปกติแล้วลูกค้าที่น่าสนใจ ได้แก่ ลูกค้าผู้เช่าสามี ภรรยาที่ำทำงานด้วยกันทั้งคู่ และไม่มีบุตร

คำถามที่ 3 : เคยอยู่ที่ไหนมาก่อน ทำไมจึงย้าย หรือทำไมไม่ชอบที่เิดิม ?
คำถามนี้จะทำให้รู้ว่า ผู้เช่ามีพฤติกรรม และทัศนคติต่อผู้ให้เช่าคนเดินอย่างไร หากได้รับคำตอบในลักษณะของการทะเลาะกับเจ้าของเดิมมาก่อน ก็ควรจะหลีกเลี่ยงผู้เช่ารายนี้

คำถามที่ 4 : คุณชอบอสังหาริมทรัพย์เช่านี้หรือไม่ ?
คำถามนี้จะทำให้รู้ว่า ทัศนคติของผู้เช่าจะออกมาเป็นบวกหรือลบ

คำถามที่ 5 : คิดจะเช่าอยู่นานแค่ไหน ?
คำถามนี้จะทำให้รู้ว่า ผู้เช่ามีความจำเป็นต้องเช่ามากน้อยเพียงใด และยังบอกให้ทราบถึงระยะเวลาความยาวนานของการเช่า ให้เจ้าของทราบได้ด้วย

คำแนะนำ ในขณะสอบถาม ต้องพยายามถาม ให้สั้น กะทัดรัด ดูเป็นธรรมชาติ ระมัดระวังไม่ให้กระทบกระเทือนถึงความสัมพันธ์ในฐานะผู้ให้เช่าและผู้เช่าด้วยนะครับ

KhonKaenHomeLand
รับซื้อ ฝากขาย ขายฝาก จำนอง บ้าน ที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ทุกชนิด
Tel : 083 599 3344

วันอาทิตย์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

การศึกษาความเป็นไปได้สำหรับการลงทุน ในธุรกิจอพาร์ทเม้นท์ให้เช่าของผู้ประกอบการ SMEs

ผู้ประกอบการ SMEs ท่านหนึ่ง  มีธุรกิจอู่เคาะพ่นสีในกรุงเทพฯ ได้เข้ามาพร้อมเพื่อน ๆ ที่มีธุรกิจเดียวกัน โดยเพื่อนท่านหนึ่งมีความตั้งใจโดยเฉพาะเพื่อมาขอคำปรึกษาเรื่องการเงินในธุรกิจอู่เคาะพ่นสี จนการให้คำปรึกษาเสร็จสิ้น ผู้ประกอบการ SMEs ท่านนี้ จึงได้โอกาสพูดคุยด้วย จนกระทั่งได้พูดคุยถึงเรื่องธุรกิจอพาร์ทเม้นท์ที่กำลังจะลงทุนในเขตรังสิต-วังน้อย ซึ่งเป็นย่านโรงงานอุตสาหกรรม โดยได้กำหนดที่ดินที่จะก่อสร้างไว้และขณะนี้กำลังเขียนแบบอยู่ เป็นโครงการอพาร์ทเม้นท์ 5 ชั้น จำนวน 144 ห้อง ลิฟท์ 1 ตัว ค่าเช่าห้องเดือนละ 2,500 บาท เน้นกลุ่มพนักงานโรงงาน โดยมีแนวคิดว่าต้องการลงทุนในพื้นที่ดินที่มีอยู่ให้มากที่สุด ได้จำนวนห้องมากที่สุด และทำอพาร์ทเม้นท์ให้มีขนาดใหญ่ไปเลย โดยได้รับเงินสนับสนุนเป็นจำนวนมากจากเครือญาติ และคิดว่าจะคุ้มการลงทุน เพราะย่านนั้นมีพนักงานโรงงานมาก ในอนาคตจะขอรับการสนับสนุนทางการเงินจากสถาบันการเงินต่อไป

วันศุกร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

การจำนองคืออะไร


ความหมายของการจำนอง
       
จำนอง คือ การที่บุคคลคนหนึ่งเรียกว่า “ผู้จำนอง” เอาอสังหาริมทรัพย์ของตน เช่น ที่ดินหรือทรัพย์ที่กฎหมายอนุญาตให้จำนองได้ ไปจดทะเบียนไว้กับบุคคลอีกคนหนึ่งเรียกว่า “ผู้รับจำนอง” เพื่อเป็นหลักประกันในการชำระหนี้ ทั้งนี้โดยผู้จำนองไม่ต้องส่งมอบที่ดินหรือทรัพย์สินดังกล่าวนั้นให้แก่ผู้รับจำนอง(ป.พ.พ. มาตรา 702)

           
การจำนองเพื่อเป็นการประกันการชำระหนี้แก่ผู้รับจำนองนั้น แบ่งออกเป็น 2 กรณีคือ

1. การจำนองทรัพย์ของตนเองเพื่อเป็นการประกันการชำระหนี้ของตนเอง
ตัวอย่าง นายเอก ได้กู้เงินจากนายโท ๑ แสนบาท โดยนายเอกนำที่ดินซึ่งเป็นของตนเองไปจดทะเบียนจำนองต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ เพื่อเป็นการประกันการชำระหนี้เงินกู้ของนายเอกเอง 

2. การจำนองเพื่อเป็นการประกันการชำระหนี้ของบุคคลอื่น
ตัวอย่าง นายเอก ได้กู้เงินจากนายโท ๑ แสนบาท โดยนายตรีได้นำที่ดินของตนไปจดทะเบียนจำนองต่อพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อเป็นการประกันการชำระหนี้ที่นายเอกได้กู้ไปจากนายโท

ทรัพย์สินที่อาจใช้ในการจำนองได้

แบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ได้ 2 ประเภทกล่าวคือ

1. อสังหาริมทรัพย์ เช่น ที่ดิน บ้าน หรือสิ่งปลูกสร้างทุกชนิดอันติดอยู่กับที่ดินนั้น
2. สังหาริมทรัพย์ ที่จำนองได้ คือ
     ก. เรือกำปั่น เรือที่มีระวางตั้งแต่หกตันขึ้นไป เรือกลไฟ หรือเรือยนต์ที่มีระว่างตั้งแต่ห้าตันขึ้นไป
     ข. แพ
     ค. สัตว์พาหนะ
     ง. สังหาริมทรัพย์อื่นๆ ซึ่งกฎหมายได้บัญญัติให้จดทะเบียนจำนองได้เช่น เครื่องจักรขนาดใหญ่เป็นต้น

หลักเกณฑ์ในการจำนอง

1. ผู้จำนองต้องเป็นเจ้าของกรรมสิทธิในทรัพย์ที่จะจำนอง

2. สัญญาจำนอง ต้องทำเป็นหนังสือและนำไปจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ มิฉะนั้นสัญญาจำนองตกเป็นโมฆะ ไม่มีผลผูกพันแก่คู่สัญญาแต่อย่างใด ในการกู้ยืมเงินนั้นมีอยู่เสมอ ที่ผู้กู้ได้นำเอาโฉนดที่ดินของตนไปมอบให้แก่ผู้ให้กู้เก็บรักษาไว้เฉยๆ เพื่อเป็นหลักประกันในการชำระหนี้ โดยไม่มีการทำเป็นหนังสือและไม่ได้นำไปจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ในกรณีเช่นนี้ไม่ใช่การจำนอง ผู้ให้กู้หาได้มีสิทธิใดๆ ในที่ดินตามโฉนดแต่อย่างใด คงได้แต่เพียงกระดาษโฉนดไว้ในครอบครองเท่านั้น ดังนั้น ถ้าผู้ให้กู้ประสงค์ที่จะให้เป็นการจำนองตามกฎหมายแล้ว จะต้องทำเป็นหนังสือและนำไปจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่

3.ต้องไปจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจรับจดทะเบียนจำนองตามกฎหมาย กล่าวคือ
     ก. ที่ดินที่มีโฉนดต้องนำไปจดทะเบียนที่กรมที่ดิน หรือสำนักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร (สาขา)หรือสำนักงานที่ดินจังหวัด หรือสำนักงานที่ดินจังหวัด (สาขา) ซึ่งที่ดินนั้นต้องอยู่ในเขตอำนาจ
     ข. ที่ดินที่ไม่มีโฉนด ได้แก่ที่ดิน น.ส. 3 ต้องไปจดทะเบียนที่อำเภอ ซึ่งที่ดินนั้นตั้งอยู่ในเขตอำนาจ
     ค.การจำนองเฉพาะบ้านหรือสิ่งปลูกสร้างไม่รวมที่ดินต้องไปจดทะเบียนจำนองที่อำเภอ
     ง. การจำนองสัตว์พาหนะ หรือแพ ต้องไปจดทะเบียนที่อำเภอ
     จ. การจำนองเรือต้องไปจดทะเบียนจำนองที่กรมเจ้าท่า
     ฉ. การจดทะเบียนเครื่องจักรต้องไปจดทะเบียนที่กระทรวงอุตสาหกรรม

KhonKaenHomeLand
รับซื้อ ฝากขาย ขายฝาก จำนอง บ้าน ที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ทุกชนิด
Tel : 083 599 3344

การขายฝากคืออะไร

ขายฝากเป็นสัญญาซื้อขายชนิดหนึ่ง ซึ่งเมื่อขายฝากไปแล้ว กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินจะตกไปยังผู้ซื้อฝาก เพียงแต่มีข้อตกลงกันว่า ผู้ขายฝากอาจไถ่ทรัพย์นั้นคืนได้ ภายในเวลาที่กำหนดกันไว้

ระยะเวลาการขายฝากอสังหาริมทรัพย์นั้น มีข้อกำหนดว่าจะทำสัญญาเป็นระยะเวลายาวนานแค่ไหนก้ได้ แต่ต้องไม่เกิน 10 ปี ถ้าในสัญญาไม่มีกำหนดเวลาที่แน่นอนไว้ ก็หมายความว่าต้องไถ่คืนภายในกำหนด 10 ปี

หากผู้ขายฝากไม่สามารถไถ่ถอนทรัพย์คืนได้ภายในกำหนด คู่สัญญาสามารถตกลงกันขยายระยะเวลาไถ่ถอนกันได้ แต่ต้องอยู่ในช่วงเวลาก่อนที่ระยะเวลาขายฝากจะครบกำหนด ซึ่งการขยายเวลาไถ่ถอน จะขยายกันกี่ครั้งก็ได้ แต่เมื่อรวมกันแล้วต้องไม่เกิน 10 ปี นับแต่วันทำสัญญาขายฝาก

การขายฝากจะคิดดอกเบี้ยไม่ได้ จะคิดได้เฉพาะในรูปของสินไถ่ หรือราคาไถ่ถอนเท่านั้น โดยกฎหมายห้ามไม่ให้สัญญาขายฝาก มีสินไถ่หรือราคาขายฝากสูงกว่าราคาขายฝากที่แท้จริงเกิน 15% ต่อปี

หลักสำคัญของการขายฝาก อยู่ที่ต้องมีการส่งมอบการครอบครองโดยตรงหรือปริยายให้แก่ผู้รับซื้อฝากพร้อมกับกรรมสิทธิ์ แต่เมื่อครบกำหนดเวลาแล้ว ผู้ขายฝากมีสิทธิที่จะไถ่ถอนได้

ข้อแตกต่างระหว่าง "การขายฝาก" กับ "การจำนอง" คือ การจำนองนั้นผู้จำนองนำทรัพย์สินของตน เช่น บ้าน-ที่ดินไปค้ำประกันหนี้เงินกู้ หากผิดนัดไม่ชำระหนี้ เจ้าหนี้ก็จะฟ้องร้องและบังคับคดียึดทรัพย์ที่นำมาค้ำประกันไว้ แต่การขายฝากเป็นการนำทรัพย์สินไปขายให้แก่คนอื่น ภายใต้เงื่อนไขที่ว่า เมื่อถึงกำหนดแล้วผู้ขายฝากมีสิทธิไถ่ถอนได้ หากเกินกำหนดก็เสียกรรมสิทธิ์ทันที

KhonKaenHomeLand
รับซื้อ ฝากขาย ขายฝาก จำนอง บ้าน ที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ทุกชนิด
Tel : 083 599 3344

วันอังคารที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2556

เลือกซื้อคอนโดมิเนียมให้ได้ของดีแบบไม่เสี่ยง ตอน 3 : ประเด็นที่ไม่ีควรมองข้ามก่อนซื้อคอนโด



ช่วงก่อนตัดสินใจซื้อ

หากเป็นโครงการที่ยังไม่ได้ก่อนสร้าง ต้องตรวจสอบดูว่าได้รับอนุญาตก่อสร้างหรือยัง
ตรวจดูชื่อผู้มีกรรมสิทธิ์ในที่ดิน
ตรวจดูแผนผังแสดงเขตที่ดินที่จะก่อสร้างอาคารชุด
ตรวจดูเลขที่ของโฉนดที่ดินตรงกับที่โฆษณาไว้หรือไม่
ตรวจดูที่ดินมีภาระผูกพันกับนิติบุคคลหรือสถาบันการเงินหรือไม่

หากเป็นโครงการที่ก่าสร้างเสร็จแล้ว
ต้องตรวจดูว่าได้มีการจดทะเบียนอาคารชุดแล้วหรือไม่ และใครเป็นผู้ขอจอทะเบียนอาคารชุด

ข้อมูลต่างๆ เหล่านี้ สามารถขอตรวจสอบได้โดยตรงจากเจ้าของโครงการ และเพื่อป้องกันความผิดพลาด สามารถตรวจเช็ดความถูกต้องได้อีกทางหนึ่งจากกรมที่ดิืน หรือสำนักงานที่ดินจังหวัด

เรื่องค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ผู้ซื้อต้องจ่ายเพิ่มเติม นอกเหนือจากค่าซื้อห้องชุด เช่นค่าบริการที่เป็นส่วนร่วม ค่าดูแลรักษา และดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์ส่วนกลาง ค่าภาษีอาการ เป็นต้น

ตรวจเช็คข้อความในสัญญาซื้อขายห้องชุด เพื่อให้แน่ใจว่าสามารถคุ้มครองสิทธิของผู้ซื้อครอบคลุมทุกประเด็น ครบตามที่ทางราชการกำหนด ประเด็นหลักๆ ที่ต้องตรวจเช็คไม่ให้สัญญาตกหล่นเป็นอันขาด ได้แก่

คำรับรองของเจ้าของโครงการว่าจะเริ่มก่อนสร้าง และแล้วเสร็จเมื่อใด รายละเอียดภาระผูกพัน ข้อมูลเกี่ยวกับที่ดิน ราคาขาย และจำนวนพื้นที่ การก่อสร้างและวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้

เรื่องค่าภาษีเงินได้ ค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ และค่าอากรแสตมป์ในการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุด สัญญาจะต้องระบุให้เจ้าของโครงการเป็นผู้จ่าย  ยกเว้นเพียงค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมในห้องชุดเท่านั้นที่ตกลงจ่ายเท่ากันได้

และต้องมีการระบุเงื่อนไขกรณีการก่อสร้างต้องหยุดชะงักลง ทั้งกรณีที่ไม่ใช่ความผิดของเจ้าของโครงการ ซึ่งสามารถขยายระยะเวลาก่อสร้างตามสัญญาออกไปได้มากสุดไม่เกินหนึ่งปี

แต่ถ้าเป็นกรณีความล่าช้าอันเกิดจากตัวเจ้าของโครงการเอง สัญญาจะต้องมีข้อความระบุให้ผู้ซื้อมีสิทธิบอกเลิกสัญญา และมีสิทธิเรียกเงินที่ได้ชำระไปแล้วทั้งหมดคือจากเจ้าของโครงการ พร้อมดอกเบี้ยในอัตราเดียวกับเบี้ยปรับที่เจ้าของโครงการกำหนดสำหรับกรณีผู้ซื้อผิดชำระหนี้

ส่วนเรื่องการชำรุดบกพร่องในส่วนที่เจ้าของโครงการต้องเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องความเสียหาย สัญญาจะต้องกำหนดเวลาในการรับผิดชอบดังนี้คือ ถ้าเป็นความเสียหายในโครงสร้างและอุปกรณ์อันเป็นส่วนประกอบอาคาร จะต้องรับผิดชอบดูแลให้ไม่น้อยกว่าห้าปีนับแต่วันจดทะเบียนอาคารชุด และถ้าเป็นส่วนควบอื่น ระยะเวลารับผิดชอบจะต้องไม่น้อยกว่าสองปีนับตั้งแต่วันจดทะเบียนอาคารชุด

KhonKaenHomeLand
รับซื้อ ฝากขาย ขายฝาก จำนอง บ้าน ที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ทุกชนิด
Tel : 083 599 3344

วันจันทร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2556

เลือกซื้อคอนโดมิเนี่ยมให้ได้ของดีแบบไม่เสี่ยง ตอน 2 : ปัญหายอดฮิตของผู้ซื้อคอนโดมิเนียม

พบว่าจากเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการซื้อที่อยู่อาศัย คอนโดมิเนียมจะเป็นที่อยู่อาศัยที่ผู้ซื้อเจอปัญหามากที่สุด โดยปัญหายอดฮิตได้แก่

1. เจ้าของโครงการนำที่จอดรถไปกั้นห้องเป็นร้อนค้าเพื่อแบ่งขายเพิ่มเติม

2. เจ้าของโครงการเรียกเก็บเงินค่าใช้จ่ายส่วนกลางแพงมาก

3. ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกตามที่ได้โฆษณาไว้ อาทิ ที่จอดรถ สระว่ายน้ำ สโมสร และห้องออกกำลังกาย

4. มีการก่อสร้างผิดแบบแปลนที่ได้รับอนุญาติ เป็นเหตุให้ไม่สามารถจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้แก่ผู้ซื้อได้

5. คอนโดมิเนียมยังก่อสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์ทุกชั้น และยังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง แต่ผู้ประกอบธุรกิจกลับบังคับให้รับโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุด โดยอ้างว่าภายในห้องชุดก่อสร้างเสร็จแล้ว

6. ห้องชุดมีเนื้อที่น้อยกว่าที่กำหนดในสัญญาจะซื้อจะขาย

7. ห้องชุดชำรุดบกพร่องแต่เจ้าของโครงการไม่รับผิดชอบ

ถึงแม้ว่าทางสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ได้มีการแก้ปัญหาเหล่านี้ ด้วยการประกาศให้การขายห้องชุดเป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน 2543 เป็นต้นไป ซึ่งทำให้ปัญหาผู้ซื้อถูกเอารัดเอาเปรียบลดน้อยลงกว่าเดิม

แต่ปัญหาต่างๆ ก็ใช่ว่าจะหมดไปซะทีเดียว เพราะเงื่อนไขสภาพของการทำธุรกิจคอนโดมิเนียม ยังคงมีข้อจำกัดอยู่หลายเรื่อง จึงมีความเป็นไปได้ว่าจะเกิดปัญหาซ้ำรอยเดิมได้ใหม่เสมอ

ดังนั้นในการเลือกซื้อคอนโดมิเนียมจึงควรระมัดระวังเป็นพิเศษ เพื่อเป็นการกันไว้ดีกว่าแก้ครับ

อ่านต่อตอนที่ 3 ประเด็นที่ไม่ควรมองข้ามก่อนซื้อคอนโด

KhonKaenHomeLand
รับซื้อ ฝากขาย ขายฝาก จำนอง บ้าน ที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ทุกชนิด
Tel : 083 599 3344

วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556

การเลือกซื้อคอนโดมิเนียมให้ได้ของดีแบบไม่เสี่ยง ตอน 1 : ปัจจัยที่เป็นตัวกำหนดความน่าสนใจของคอนโดมิเนียม

แรงสนับสนุน ที่ทำให้คนหันมาสนใจอยู่อาศัยในคอนโดกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นราคาน้ำมันที่แพงขึ้น ปัญหาการจารจรที่ติดขัด การขยายโครงการรถไฟฟ้าของรัฐบาล

การเลือกซื้อคอนโดดีๆ สักแห่งเป็นเรื่องที่ทำได้ไม่ง่ายนัก โดยมีปัจจัยที่เป็นตัวกำหนดความน่าสนใจของคอนโด ดังต่อไปนี้

1. ความสะดวกสะบาย ความสงบสุข และความรุ่มเย็นในการอยู่อาศัย
คอนโดที่ดีควรมีจำนวนผู้อยู่อาศัยพอเหมาะ ไม่แออัดเกินไป การมีกฎระเบียบที่ใช้บังคับภายในคอนโด จะต้องรัดกุม และเอื้ออำนวยทำให้เกิดความสงบสุข ร่มเย็น และปลอดภัยในการอยู่อาศัย

2. ทำเลที่ตั้ง
แนวคิดหลักของการอาศัยอยู่คอนโดมิเนียม คือเรื่องความสะดวกสบายในการเดินทางมาทำงาน หรือกิจกรรมต่างๆในเมืองเป็นสำคัญ ดังนั้น ทำเลคอนโดใดยิ่งอยู่ใกล้แหล่งงานและแห่งจับจ่ายใช้สอยมากแค่ไหนยิ่งดี ตัวอย่างทำเลที่นิยมกันมาก ได้แก่ ทำเลติดสถานีรถไฟฟ้า ติดห้างสรรพสินค้า ติดมหาวิทยาลัย หรือติดสวนสาธารณะ

3. ขนาดและรูปแบบ รวมถึงผังการจัดห้อง
โดยพิจารณาดูว่า มีความสะดวก เหมาะสมต่อการใช้ประโยชน์มากน้อยแค่ไหน ก่อให้เกิดความสวยงาม และสร้างบรรยากาศให้กับห้องชุดมากเพียงใด

4. สาธารณูปโภคและสิ่งอำนวยความสะดวกในคอนโดมิเนียม
เช่น เครื่องทำความเย็น ที่จอดรถ ไฟฟ้า ประปา ร้านขายอาหาร ซูเปอร์มาร์เก็ต สนามกีฬาในร่ม มุมสงบเพื่อการพักผ่อน เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ ยิ่งมีมาก และพร้อมสรรพเท่าไหร่ ความน่าสนใจก็จะมีเพิ่มมากขึ้นดุจเงาตามตัว

5. ทรัพย์ส่วนกลาง
ได้แก่ทรัพย์สินที่เจ้าของห้องชุดภายในคอนโดมิเนียม มีสิทธิเป็นเจ้าของและใช้ประโยชน์ร่วมกัน เช่น ลิฟต์ สนามกีฬา สถานที่พักผ่อน ฯลฯ ทั้งนี้ต้องดูว่ามีความพร้อมสรรพเพียงพอแค่ไหน และต้องพิจารณารวมไปถึง ค่าใช้จ่ายในการจัดการทรัพย์สินส่วนกลางด้วยว่า มีอัตราสมเหตุสมผลมากน้อยแค่ไหน

อ่านต่อ ตอนที่ 2 ปัญหายอดฮิตของผู้ซื้อคอนโด

KhonKaenHomeLand
รับซื้อ ฝากขาย ขายฝาก จำนอง บ้าน ที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ทุกชนิด
Tel : 083 599 3344

วันพุธที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2556

ความสำคัญของนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ ตอน 3 : ประโยชน์ของนายหน้าต่อผู้ซื้อและผู้ขาย

ประโยชน์สำหรับผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่ได้จากนายหน้า

1. สะดวกและประหยัดเวลา
2. ลดความเสี่ยงจากปัญหาฉ้อโกง
3. ตัดปัญหาเรื่องจุกจิก
4. ได้รับข้อมูลทรัพย์สินโดยละเอียดจากนายหน้า
5. ได้รับข้อมูลราคาตลาดเปรียบเทียบ
6. ได้รับการปรึกษาเรื่องการใช้ประโยชน์ในพื้นที่
7. ช่วยเจรจาต่อรองให้ซื้อได้ในราคาที่เหมาะสม
8. มีมืออาชีพทำสัญญาจะซื้อจะขายได้อย่างเป็นกลาง
9. ได้รับคำปรึกษาเรื่องทำชี้เขตทำรางวัด
10. ได้รับคำปรึกษาจากนายหน้าเรื่องการขอสินเชื่อจากสถาบันทางการเงิน
11. ได้รับคำปรึกษาเรื่องสิทธิประโยชน์ที่อาจได้รับตอนจดทะเบียนนิติกรรม
12. ได้รับคำปรึกษาเรื่องจัดเตรียมเอกสารการจดทะเบียนนิติกรรม
13. มีมืออาชีพคอยอำนวยความสะดวกขณะทำนิติกรรมที่สำนักงานที่ดิน
14. มีมืออาชีพช่วยแก้ปัญหาต่างๆ จนการซื้อขายสำเร็จไปด้วยดี
15. ได้รับข้อมูลแนะนำเรื่องการตกแต่ง ซ่อมแซม หรือปลูกสร้างอาคาร

ประโยชน์สำหรับผู้ขายอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับจากนายหน้า

1. สะดวกและตัดภาระค่าโฆษณา เพราะนายหน้าลงทุนให้เอง
2. ลดความเสี่ยงจากปัญหาฉ้อโกง
3. ตัดปัญหาเรื่องจุกจิก
4. ได้รับข้อมูลราคาตลาดเปรียบเทียบ
5. ได้รับคำปรึกษาเรื่องการตั้งราคาขายที่เหมาะสม
6. มีมืออาชีพช่วยทำการตลาดหลายช่องทางอย่างมีประสิทธิภาพ
7. มีมืออาชีพช่วยคัดกรองผู้สนใจซื้ออย่างเหมาะสม
8. มีมืออาชีพช่วยเจรจาต่อรองช่วยเจรจาต่อรองให้ขายได้ในราคาที่เหมาะสม
9. มีมืออาชีพช่วยทำสัญญาจะซื้อจะขายได้อย่างเป็นกลาง
10. ได้รับคำปรึกษาเรื่องทำชี้เขตทำรางวัด
11. ได้รับคำปรึกษาเรื่องสิทธิประโยชน์ที่อาจได้รับตอนจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์
12. มีมืออาชีพช่วยเตรียมข้อมูลค่าธรรมเนียม และภาษีโอนให้อย่างถูกต้อง
13. มีมืออาชีพคอยอำนวยความสะดวกขณะทำนิติกรรมที่สำนักงานที่ดิน
14. มีมืออาชีพคอยช่วยแก้ปัญหาต่างๆ จนการซื้อขายสำเร็จด้วยดี

ขอขอบพระคุณบทความดีๆ จาก อ.อนุชา กุลวิสุทธิ์

KhonKaenHomeLand
รับซื้อ ฝากขาย ขายฝาก จำนอง บ้าน ที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ทุกชนิด
Tel : 083 599 3344

วันอังคารที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2556

ความสำคัญของนายหน้าอสังหาฯ ตอน 2 : การบริการที่ได้รับจากนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แบบฟรี ๆ

บริการหลักๆ ที่จะได้จากการใช้นายหน้าอสังหาริมทรัพย์ ในการซื้อ ขาย ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ประเด็นหลักๆ ที่พอจะแยกแยะได้มีดังนี้

1. ช่วยทำงานเต็มเวลาแทนผู้ขาย ในเรื่องการหาผู้สนใจมาซื้ออสังหาริมทรัพย์ ไม่ได้ทำงานเพียงแค่ตอนเย็นหลังเลิกงาน หรือทำงานเฉพาะวันเสาร์ วันอาทิตย์เท่านั้น ดังนั้นโอกาสในการขายจึงมีมากกว่า

2. ทำให้ผู้สนใจซื้อมีมากขึ้น เพราะไม่ใช่แค่ได้โฆษณาในหนังสือพิมพ์เพียงอย่างเดียว แต่จะได้ลูกค้าจากช่องทางอื่นๆ ที่อยู่ในเครือข่ายของนายหน้าด้วย เช่น จากการแนะนำจากลูกค้าเดิม อินเตอร์เน็ต อีเมล์ สถาบันการเงิน โรงแรม สถานศึกษา รวมถึง ผู้ประกอบวิชาชีพต่างๆ เช่น นักกฎหมาย ตัวแทนนายหน้าประกันภัย แผนกบุคคลของบริษัทต่างๆ รวมถึงผู้รับเหมา

3. ช่วยแนะนำผู้ขายในการกำหนดราคาขายที่เหมาะสม โดยอิงราคากับข้อมูลราคาขายของอสังหาริมทรัพย์ที่มีลักษณะเดียวกันในตลาด ไม่อิงจากราคาเสนอขายเพียงอย่างเดียว

4. ช่วยให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์แก่ผู้ขายว่าควรตระเตรียมอสังหาริมทรัพย์อย่างไร จึงจะสามารถปรับปรุงมูลค่าให้สูงขึ้น และขายได้เร็วขึ้น

5. คำนวณจำนวนเงินที่ผู้ขายพังจะได้รับสุทธิหลังจากหักค่าใช้จ่ายต่างๆ รวมทั้งภาษีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และยังช่วยคำนวณเงินที่เหลือจากการกู้ยืมเงินด้วยให้กับผู้ขาย

6. สามารถชี้และแสดงให้เห็นจุดขายของอสังหาริมทรัพย์ ได้ดียิ่งขึ้นเนื่องจากนายหน้าที่มีประสบการณ์จะรู้และเข้าใจถึงความต้องการของลูกค้า ดังนั้นจะรู้จักใช้จังหวะ และโอกาสในการที่เสนอขายอสังหาริมทรัพย์ ให้โดนใจลูกค้าที่มีความสนใจจริงๆ

7. ช่วยอำนวยความสะดวกในเรื่องต่างๆ ที่ทำให้การขายเกิดขึ้นโดยง่าย เช่น การพาผู้สนใจไปชมอสังหาริมทรัพย์ ดูแลเรื่องนิติกรรมและสัญญาต่างๆ จัดการเรื่องการโอนไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์ให้แก่ผู้ฝากขาย และประสานงานเรื่องโอนกรรมสิทธิ์ ตรวจสอบและคำนวณค่าใช้จ่ายต่างๆ

8. ช่วยผู้ขายในการเลือกซื้ออสังหาริมทรัพย์ใหม่ โดยเฉพาะในกรณีการซื้อบ้านหลังใหม่มาอยู่อาศัยแทนหลังเดิมที่ขายไป ในปัจจุับันถ้าทำภายใน 1 ปี กฎหมายให้สิทธิได้รับยกเว้นภาษีเงินได้

9. ช่วยให้การเจรจาต่อรองการขายทำได้ง่ายและสะดวกขึ้น เพราะนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ อยู่ในฐานะคนกลาง จึงสามารถให้คำแนะนำในเรื่องข้อดีข้อเสียของข้อเสนอของแต่ละฝ่าย ๆ ได้เป็นอย่างดี

10. ช่วยขจัดอุปสรรคให้กับผู้ซื้อในการที่จะซื้ออสังหาริมทรัพย์ เช่น เรื่องการติดต่อเจรจากู้ยืมเงินกับสถาบันการเงิน การคำนวณจำนวนเงินผ่อนชำระ คำนวณความสามารถในการซื้อ

11. ช่วยติดตามผลกรณีมีผู้ให้ความสนใจซื้อ อสังหาริมทรัพย์จำนวนมาก

12. ช่วยกลั่นกรองกลุ่มลูกค้าเป้าหมายทำให้ไม่ต้องเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์กับข้อเสนอของผู้ซื้อบางรายที่ยากจะเป็นไปได้

13. ช่วยจัดการและจัดแจงรายละเอียดรวมถึงตอบข้อซักถามเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์แทนผู้ขาย

บริการต่างๆ ดังกล่าวข้างต้น จัดเป็นบริการพื้นฐานที่ผู้ประกอบการธุรกิจนายหน้าที่มีมาตรฐานในปัจจุบันเสนอให้กับลูกค้า ซึ่งบริการเหล่านี้ตามธรรมเนียมปฎิบัติแล้ว จะอยู่ในลักษณะของการให้เปล่าแบบฟรี ๆ โดยไม่คิดมูลค่าแต่อย่างใด

ผู้ใช้บริการมีภาระเพียงแค่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมในรูปค่านายหน้า เมื่อมีการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ได้แล้วเท่านั้น

ด้วยเหตุนี้เองเทคนิคง่ายๆ ในการเลือกใช้บริการนายหน้าหรือโบรคเกอร์แห่งใดแห่งหนึ่งจึงต้องพิจารณาถึงบริการต่างๆ เหล่านี้ว่ามีสมบูรณ์ครบถ้วนมากน้อยเพียงใด และต้องเป็นบริการแบบฟรีๆ โดยไม่คิดมูลค่าด้วย

อ่านต่อ ความสำคัญของนายหน้าอสังหาฯ ตอน 3 : ประโยชน์ของนายหน้าอสังหาฯ ต่อผู้ซื้อและผู้ขาย

KhonKaenHomeLand
รับซื้อ ฝากขาย ขายฝาก จำนอง บ้าน ที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ทุกชนิด
Tel : 083 599 3344

ความสำคัญของนายหน้าอสังหาฯ ตอน 1 : เหตุผลหลัก 3 ประการ ที่ต้องใช้บริการจากนายหน้าอสังหาริมทรัพย์

คนทั่วไปมักคิดว่า การซื้อขายบ้านด้วยตัวเอง จะสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายเรื่องค่านายหน้าได้ ความคิดเช่นนี้ขัดกับหลักการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์อย่างสิ้นเชิง

ปัจจุบันเป็นที่ยอมรับกันแล้วว่า การอาศัยนายหน้า มาเป็นตัวช่วยในการลงทุน ถือเป็นกลยุทธ์การลงทุน อันชาญฉลาดโดยพื้นฐานอย่างหนึ่ง



โดยมีเหตุผลหลักๆ ที่สนับสนุนให้ต้องใช้บริการนายหน้าอสังหาฯ อยู่ 3 ประการ

เหตุผลประการแรก เป็นเพราะการซื้อ ขาย อสังหาริมทรัพย์ทำได้ยาก ต้องใช้เวลา และความรู้ ความชำนาญมาก ปกติคนทั่วไปมักไม่มีเวลา ไม่มีความรู้ และความชำนาญมากพอ ซึ่งนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ที่มีพร้อมทั้งความรู้ และความชำนาญ จะมีผลทำให้ ช่วยลดค่าใช้จ่าย ในระหว่างการซื้อขาย ได้เป็นอย่างดี

ประการที่สอง ปัจจุบัน ธุรกิจนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ มีการพัฒนาจากอดีต เป็นอย่างมาก มีหลักสูตรอบรม มีสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ เหล่านี้ ทำให้นายหน้าอสังหาริมทรัพย์ มีความรู้ ความสามารถ ความเชื่อถือ พร้อมที่จะตอบสนองต่อความต้องการของผู้ขาย และผู้ซื้อได้เป็นอย่างดี เป็นเสมือนกุญแจ ดอกสำคัญที่ทำให้การซื้อขายบ้านทำได้ง่ายขึ้น และได้ราคาสูงขึ้น

ประการที่สาม ที่ทำให้ผู้รู้ฟันธงแนะนำให้ใช้บริการอย่างไม่ลังเล มาจากประเด็นค่าใช้จ่ายในการใช้บริการนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ที่ต่ำมาก เมื่อพิจารณาระหว่างผลได้กับค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียไป

ผลที่ได้จากการเลือกใช้นายหน้าอสังหาริมทรัพย์ในการช่วยขายแล้ว นอกจากจะทำให้บ้านขายได้เร็วขึ้น และได้ราคาแล้ว ยังรวมถึงโอกาสในการได้บริการฟรีอีกมากมายหลายอย่าง ซึ่งการบริการต่างๆ เหล่านี้หากขายบ้านด้วยตัวเอง ท่านจำเป็นต้องควักกระเป๋าจ่ายเองแทบทั้งสิ้น

ซึ่งเราจะใช้บริการของนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ มาช่วยในการซื้อขาย หรือลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ได้อย่างไรบ้าง พบกันตอนต่อไปครับ

อ่านต่อ ความสำคัญของนายหน้าอสังหาฯ ตอน 2 การบริการที่ได้รับแบบฟรีๆ จากนายหน้าอสังหาฯ

KhonKaenHomeLand
รับซื้อ ฝากขาย ขายฝาก จำนอง บ้าน ที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ทุกชนิด
Tel : 083 599 3344

วันอังคารที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2556

ขายบ้านให้ทันใจ และได้ราคา ตอน 7: ทำการขายบ้าน

ขั้นตอนที่ 7 ทำการขายบ้าน

ในวันนัดลูกค้าเข้ามาชมบ้าน เทคนิคที่มีประสิทธิภาพอันหนึ่ง คือควรจะมีสรุปข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับตัวบ้านไว้ในกระดาษแผ่นเดีียว เพื่อแจกให้ลูกค้าที่เข้ามาชมบ้านทุกราย ซึ่งจะเป็นการเน้น และตอกย้ำจุดที่น่าสนใจของบ้านให้กับลูกค้าได้พิจารณาด้วยครับ


ขอขอบพระคุณความรู้ดีๆ สำหรับเทคนิคการขายบ้านให้ทันใจและได้ราคา จาก อ.อนุชา กุลวิสุทธิ์ ผู้แต่งหนังสือ ซื้อ-ขายบ้าน เพื่อการลงทุน ไว้ ณ.ที่นี้ด้วยครับ

KhonKaenHomeLand
รับซื้อ ฝากขาย ขายฝาก จำนอง บ้าน ที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ทุกชนิด
Tel : 083 599 3344

ขายบ้านให้ทันใจ และได้ราคา ตอน 6 : กระตุ้นการขาย

ขั้นตอนที่ 6 กระตุ้นการขาย 

เป็นขั้นตอนที่เกี่ยวกับการการลงโฆษณาในสื่อต่างๆ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการขายบ้าน ควรจะเลือกสื่อที่เข้าถึงกลุ่มของผู้ซื้อ ที่เราต้องการ เป็นหลักก่อน เช่น กลุ่มพนักงานใหม่ ก็มุ่งเป้าโฆษณาไปยังบริษัทใหญ่ๆ

การติดป้ายโฆษณาขายบ้าน ควรจะติด ไว้หน้าบ้าน และบริเวณ ใกล้เคียงเท่านั้น เช่น ปากซอย ก่อนเข้าถึงตัวบ้าน หรือหน้าหมู่บ้านก็พอ เพราะผู้สนใจซื้อ มักจะขับรถตระเวนดูบ้าน ตามทำเลที่ต้องการอยู่อาศัยอยู่แล้ว

การลงสื่อทางหนังสือพิมพ์รายวัย ควรลงสื่อโฆษณาเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ เท่านั้น และในการเปิดบ้านควรจะนัดผู้สนใจซื้อ เป็นช่วงบ่ายโมง ถึง 5 โมงเย็น ของวันอาทิตย์เท่านั้น สำหรับการเข้าชมบ้าน จึงจะเป็นการบริหารเวลา และลดค่าใช้จ่ายได้ดีครับ

อ่านต่อขั้นตอนที่ 7 ทำการขายบ้าน

KhonKaenHomeLand
รับซื้อ ฝากขาย ขายฝาก จำนอง บ้าน ที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ทุกชนิด
Tel : 083 599 3344

วันจันทร์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2556

ขายบ้านให้ทันใจ และได้ราคา ตอน 5 : จัดเตรียมสัญญาการซื้อขายบ้านไว้ให้พร้อม

ขั้นตอนที่ 5 : จัดเตรียมสัญญาการซื้อขายบ้านไว้ให้พร้อม

การวางแผนขายบ้านทุกครั้ง จะต้องเตรียมเอกสาร ใบเสร็จต่างๆ ไว้ให้พร้อมเสมอ เพราะ หากเมื่อไร จะต้องทำสัญญากัน ก็จะสามารถทำได้ทันที จะได้ไม่ต้องไปวิ่งหาให้เสียเวลาครับ เป็นการป้องกันการเปลี่ยนใจจากผู้ซื้อได้เป็นอย่างดีอีกทางหนึ่ง

อ่านต่อขั้นตอนที่ 6 กระตุ้นการขาย



KhonKaenHomeLand
รับซื้อ ฝากขาย ขายฝาก จำนอง บ้าน ที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ทุกชนิด
Tel : 083 599 3344

วันอาทิตย์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2556

ขายบ้านให้ทันใจ และได้ราคา ตอน 4 : ขอคำแนะนำจากนักกฎหมาย

ขั้นตอนที่ 4 ขอคำปรึกษา และคำแนะนำจากนักกฎหมาย

เนื่องจาก ขั้นตอนการดำเนินการต่างๆ ในการขายนั้น จะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการตามกฎหมายแทบทั้งสิ้น ดังนั้น จึงควรจะต้องปรึกษา หรือขอคำแนะนำจากนักกฎหมายทุกครั้งก่อนดำเนินการใดๆครับ ซึ่งอาจจะเป็นเพื่อนหรือคนรู้จักที่มีความรู้ทางกฎหมายก็ได้

ขอให้ท่านพึงระลึกไว้เสมอว่า ทุกครั้งที่มีการทำสัญญาต่างๆ กับผู้ซื้อ จะต้องทำอย่างเป็นทางการ และมีผู้รู้ทางกฎหมายอยู่ด้วยเสมอ จึงจะเป็นการลดความเสี่ยงได้อีกทางหนึ่ง และยังทำให้เกิดความน่าเชื่อถือต่อสายตาผู้ซื้อด้วยครับ

อ่านต่อตอนที่ 5 จัดเตรียมสัญญาซื้อขายบ้านไว้ให้พร้อม

KhonKaenHomeLand
รับซื้อ ฝากขาย ขายฝาก จำนอง บ้าน ที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ทุกชนิด
Tel : 083 599 3344

วันเสาร์ที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2556

ขายบ้านให้ทันใจ และได้ราคา ตอน 3 : ช่วยหาแหล่งสนับสนุนทางการเงิน

ขั้นตอนที่ 3 ช่วยหาแหล่งสนับสนุนทางการเงินให้ลูกค้าแต่เนิ่นๆ

ในการซื้อขายบ้าน อสังหาฯ นั้น แหล่งสนับสนุนทางการเิงิน จากสถาบันทางการเงิน มีบทบาทมาก ที่เข้ามาเป็นตัวกลาง ช่วยให้การซื้อขายเกิดขึ้นได้

โดยมีเงื่อนไขทางการเงินที่เกี่ยวข้องอยู่ 2 รายการ คือ เงินดาวน์ และ เงินผ่อนชำระรายเดือน ยิ่งถ้าสามารถเจรจา ต่อรอง ให้สามารถจ่ายเงินดาวน์ได้น้อยๆ และ ขยายระยะเวลาการผ่อนชำระไปได้นานๆ มากเท่าไหร่ โอกาสในการขายก็จะมากขึ้นด้วยเช่นกัน

ฝ่ายผู้ซื้อบ้านส่วนใหญ่ จะไม่มีความรู้ และความเข้าใจ ในเรื่องการกู้ยืนเงินซื้อบ้านมากนัก หากสามารถให้ความกระจ่าง กับลูกค้าได้ว่า ควรจะกู้กับสถาบันการเงินไหนดี เงินดาวน์ และเงินผ่อนชำระรายเดือนต้องจ่ายเท่าไร คุณสมบัติผู้ขอกู้ยืมเป็นอย่างไร อัตราดอกเบื้ยเท่ากับเท่าไร ก็จะทำให้โอกาสในการขายบ้าน อสังหาฯ มีมากยิ่งขึ้นด้วยครับ

อ่านต่อตอนที่ 4 ขอคำแนะนำจากนักกฎหมาย

KhonKaenHomeLand
รับซื้อ ฝากขาย ขายฝาก จำนอง บ้าน ที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ทุกชนิด
Tel : 083 599 3344

วันศุกร์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2556

ขายบ้านให้ทันใจ และได้ราคา ตอน 2 : การประเมินราคาบ้าน

ขั้นตอนที่ 2 ประเมินราคาบ้าน

ราคาขายบ้านนั้น หากกำหนดราคาที่ต่ำเกินไป จะทำให้สูญเสียรายได้ที่ท่านพึงจะได้รับไป และหากตั้งราคาขายที่สูงเกินไป ก็จะส่งผลให้ขายยาก ดังนั้น จึงควรตั้งราคาบ้านให้เหมาะสมตามราคาตลาดที่แท้จริงของบ้าน จึงจะดีที่สุดครับ

ฉะนั้น การหา ราคาตลาดที่แท้จริง จึงมีความจำเป็นมากอีกขั้นตอนหนึ่งที่ต้องทำ ซึ่งในการหาราคาตลาดที่แท้จริงนั้น ท่านอาจจะจ้างผู้ที่มีความรู้ หรือมืออาชีพที่น่าเชื่อถือทางด้านนี้ มาช่วยหาราคาตลาดที่แท้จริงให้ได้

สำหรับรายงานการประเมินจากมืออาชีพ ที่มาทำการประเมินนั้น ยังสามารถนำมาใช้อ้างอิงประกอบการขายได้เป็นอย่างดี ทางฝั่งผู้ซื้อมั่นใจได้ว่า ไม่ได้ซื้อบ้านในราคาที่แพงเกินไป ทำให้ลดข้อโต้แย้งในเรื่องราคาขายจากฝ่ายผู้ซื้อได้เป็นอย่างดี ส่วนฝ่ายผู้ขาย ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะขายบ้านราคาถูกเกินไป

การจ้างมืออาชีพทางด้านการประเมินราคานั้น ไม่ได้แพงอย่างที่คิด ปกติบ้านราคาหลักล้าน ค่าใช้จ่ายในการจ้างมืออาชีพมาดำเนินการประเมินราคาบ้านนั้นอยู่ที่หลักพันเท่านั้นเองครับ

อ่านต่อตอนที่ 3 ช่วยหาแหล่งสนับสนุนทางการเงิน

KhonKaenHomeLand
รับซื้อ ฝากขาย ขายฝาก จำนอง บ้าน ที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ทุกชนิด
Tel : 083 599 3344

วันพฤหัสบดีที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2556

ขายบ้านให้ทันใจ และได้ราคา ตอนที่ 1 : การทำความสะอาด ทาสี ซ่อมแซมบ้าน


บ้านจะขายยาก หรือง่าย จริงๆ แล้วขึ้นอยู่กับผู้ขาย ที่ขาดเทคนิค และวิธีการขายที่เหมาะสม และดีพอแล้วหรือไม่


เทคนิค เคล็ดลับต่อไปนี้ ได้พิสูจน์แล้วว่าปฎิบัติได้จริง โดยมีวิธีการตามลำดับขั้นตอนดังต่อไปนี้

1. ทำความสะอาด ทาสี และซ่อมแซมบ้าน
2. ประเมินราคาบ้าน
3. ช่วยหาแหล่งสนับสนุนทางการเงินให้ลูกค้าแต่เนิ่นๆ
4. ปรึกษาและขอคำแนะนำจากนักกฎหมาย
5. จัดเตรียมสัญญาการซื้อขายบ้านไว้ให้พร้อม
6. กระตุ้นการขาย
7. ทำการขายบ้าน

ขั้นตอนที่ 1 : การทำความสะอาด ทาสี และซ่อมแซมบ้าน
ขั้นตอนนี้ ถือเป็นขั้นตอนแรกสำหรับ ผู้ที่คิดจะขายบ้าน ควรจะยึดถือปฎิบัติทุกครั้ง เมื่อคิดจะขายบ้าน

ถือเป็นการเตรียมสินค้าให้พร้อมก่อนที่จะทำการขาย ไม่ต่างกับ สินค้าอื่นๆ ที่ต้องมีบรรจุภัณฑ์ที่สวยงาม และดึงดูด จะทำให้เพิ่มมูลค่า และดึงดูด ผู้ซื้อได้เป็นอย่างดี

สำหรับบ้านนั้น จุดประสงค์ ก็เพื่อ ปรับปรุง ตกแต่งบ้าน ให้น่าสนใจ และดึงดูดใจแต่ผู้ซื้อมากขึ้น ซึ่งผู้ซื้อส่วนใหญ่ มักจะลังเลใจ ที่จะต้องเสียเวลา และเสียเงินในการ ซ่อมแซม ทาสี และทำความสะอาดบ้าน

จุดบกพร่องเล็กๆ น้อยๆ ในสายตาของผู้ซื้อแล้ว มักมีนัยสำคัญในการตัดสินใจซื้อบ้านเสมอ เช่น ปูนผนังที่แตกร้าว ประตูบ้านที่ส่งเสียงดัง สีที่กระเทาะลอกออก หลังคาที่รั่วชำรุด น้ำที่รั่วซึมตามก๊อกน้ำ คราบสกปรกในบ้าน หรือน้ำมันที่เปื้อนในครัว เป็นต้น

อ่านต่อตอนที่ 2 การประเมินราคาบ้าน

KhonKaenHomeLand
รับซื้อ ฝากขาย ขายฝาก จำนอง บ้าน ที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ทุกชนิด
Tel : 083 599 3344